วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่ 9
วันอังคาร ที่ 27 กันยายน  พ..2559

สอบกลางภาค



บันทึกการเรียนครั้งที่ 8
วันอังคาร  ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559



เนื้อหาการเรียนและความรู้ที่ได้รับ
       วันนี้อาจารย์ก็ให้เราคัดลายมือแบบ หัวกลมตัวเหลี่ยมเหมือนในทุกๆครั้งโดยครั้งนี้จะต้องเขียนให้ไวเพื่อที่จะได้ทำกิจกรรมต่อ 


       หลังจากคัดลายมือเสร็จอาจารย์ก็ได้ให้ทำกิจกรรม ภาพสามมิติ โดยแจกอุปกรณ์ดังนี้
1.กระดาษ A4 คนละ 1 แผ่น
2.ปากกาเมจิก 3 แท่ง คละสี
วิธีการทำ
1.ให้นำมือของตัวเองวางบนกระดาษแล้วใช้ปากกาเมจิกวาดให้เป็นรูปมือของเรา โดยใช้สีอะไรก็ได้
2.จากนั้นนำปากกาเมจิกอีกสีหนึ่ง มาวาดให้เป็นเส้นตรงในบริเวณมือแล้วโค้งตามตรงนิ้วมือแล้วกลับไปเป็นเส้นตรงแบบเดิม
3.นำปากกาเมจิกอีกสีมาทำตามแบบขั้นที่2 ก็จะเกิดเป็นภาพสามมิติ

         


**กิจกรรมนี้เราสามารถนำไปใช้กับเด็กได้เพื่อให้เด็กได้เกิดความรู้ใหม่ๆและได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบว่าจะลงสีใดก่อน**
        จากนั้นอาจารย์ก็ให้พวกเราส่งงานในสัปดาห์ที่แล้ว และได้ผลงานงานรุ่นพี่ที่ได้ทำมาให้พวกเราดู โดยออกแบบภาพติดตาเป็นเด็กสวมใส่ชุดประจำชาติของตนเอง
                               

        จากนั้นก็ต่อด้วยกิจกรรมที่เราได้ทำของเล่นวิทยาศาสตร์ มานำเสนออีกครั้ง แต่ในครั้งนี้นำเสนอโดยจัดเป็นกลุ่มว่าของเล่นแต่ละคนอยู่ในประเภทไหนบ้าง เช่น แรงต้านอากาศ  แรงถ่วงจากจุดศูนย์กลาง
แรงเสียดสี เป็นต้น หลังจากที่ออกมาจัดหมวดหมู่ของของเล่นแล้ว อาจารย์ก็มีการทดลอง 2 กิจกรรมมาให้ทำ คือ
1.การทดลองน้ำเท่ากัน


2.การทดลองน้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ



3.ดอกไม้บานในน้ำ อุปกรณ์มี กระดาษ A4 แบ่งเป็น4ส่วนและแบ่งคนละ 1 ส่วน และปากกาเมจิก
วิธีการทำ
พับกระดาษให้เป็น 4 ส่วนเพื่อที่จะตัดให้เป็นดอกไม้ จากนั้น ก็ใช้สีเมจิกวาดตรงกลางให้เป็นเกสรแล้วพับกระดาษยังไงก็ได้แต่อย่างพับจนแน่นเกินไป แล้วต่อยดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
   ชมคลิป



จากนั้นก็ต่อด้วยการนำเสนอ งานกลุ่มที่ ประดิษฐ์สื่อเข้ามุม
การประเมิน
ประเมินตนเอง  วันนี้ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมหลายๆกิจกรรมและตั้งใจฟังครูพูดอธิบายในเนื้อหาความรู้อย่างตั้งใจ
ประเมินเพื่อน วันนี้เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียนและให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี
ประเมินอาจารย์  อาจารย์มีการเตรียมตัวในการสอนมาเป็นอย่างดี และมีการทดลองมากมายที่ให้พวกเราได้ลองทดลองดู เพื่อให้เราได้ฝึกสังเกตของการเปลี่ยนแปลงต่างๆ







บันทึกการเรียนครั้งที่ 7
วันอังคาร  ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559


เนื้อหาการเรียนและความรู้ที่ได้รับ
วันนี้อาจารย์ได้มีการให้คัดลายมือเหมือนในทุกๆครั้ง ด้วยตัวหนังสือ หัวกลมตัวเหลี่ยม


       หลังจากที่พวกเราคัดลายมือกันเสร็จอาจารย์ก็ได้เปิดวีดีโอ เรื่อง ความลับของแสง ให้ได้ดูในวิดโอได้พูดถึงเรื่องแสงว่าแสงมีประโยชน์อย่างไร ความรู้ที่ได้จากวิดีโอ มีดังนี้
1.แสงจะเป็นคลื่น และมีความสามารถในการเคลื่อนที่เร็ว 300000 กิโลเมตร / ต่อชั่วโมง
2.แสงเดินทางเป็นเส้นตรง
3.เมื่อแสงมากระทบกับวัตถุจึงจะสะท้อนเข้ามาที่ดวงตาของเรา จะทำให้เราสามารถมองเห็นวัตถุนั้นได้
4.การหักเหของแสง เกิดจากแสงจะเดินทางผ่านตัวกลางที่แตกต่างกันและเกิดการกกัหเหตามมุมของตัวกลางนั้นๆ
5.การสะท้อนของแสงทำให้เกิดมุมตกกระทบคือมุมที่แสงตกกระทบทำกับเส้นตั้งฉากกับกระจก และมุมสะท้อนคือมุมที่แสงสะท้อนทำกับเส้นตั้งฉากกับกระจก  กฎของการสะท้อนกล่าวว่า เมื่อเกิดการสะท้อนแสงทุกครั้งมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อนเสมอ
คุณสมบัติของของวัตถุมีดังนี้
1.วัตถุโปร่งแสง แสงจะสามารถทะลุผ่านได้บางส่วน สามารถมองเห็นได้แต่จะไม่ชัด
2.วัตถุโปร่งใส แสงสามรถทะลุผ่านได้ สามารถมองผ่านได้อย่างชัดเจน
3.วัตถุทึบแสง แสงจะไม่สามารถทะลุผ่านได้ จะดูดกลืนแสง เช่น หิน เหล็ก เป็นต้น
       พอเราได้ดูวีดีโอเสร็จอาจารย์ก็ได้มีการทดลองให้พวกเราได้ลองทดลองดูโดยมีอุปกรณ์ที่เป็นสื่อที่เกี่ยวกับแสงและการมองเห็นมาให้ทดลอง มีดังนี้

กล้องเพอริสโคป



กล้องเพอริสโคปใช้หลักการสะท้อนของแสงผ่านกระจก 2 ชิ้น ที่เอียงทำมุม 45 องศา มาใช้ แสงที่ส่องผ่านเข้ามาตกกระทบกับกระจกจะสะท้อนทำมุม 90 องศาทำให้เราสามารถมองเห็นภาพวัตถุที่อยู่สูงเหนือระดับสายตาได้ ซึ่งภาพที่เห็นก็จะอยู่ในทิศทางเดียวกับของจริง
กระจกพิศวง



ภาพติดตา







       ธรรมชาติของสายตามนุษย์ในการมองเห็นภาพใดภาพหนึ่งแล้ว หากภาพนั้นหายไป สายตามนุษย์จะยังคงรักษาภาพไว้ที่เรติน่าเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1/15 วินาที (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงนี้) ถ้าหากภายในระยะเวลาดังกล่าวมีอีกภาพแทรกเข้ามาแทนที่ สมองของมนุษย์จะทำการเชื่อมโยงสองภาพเข้าด้วยกัน และจะทำหน้าที่ดังกล่าวต่อไปเรื่อยๆ หากมีภาพต่อไปปรากฎในเวลาใกล้เคียงกัน
       หลังจากที่เราลองเล่นและทดลองกัน อาจารย์ก็ได้มอบหมายงานให้เรา 2 ชิ้น คือให้ไปทำภาพติดตาแลภาพเคลื่อนไหว
การบ้าน 2 ชิ้น
  ภาพติดตา

  ภาพเคลื่อนไหว

คลิปวีดีโอ



อาจารย์ได้พูดถึงการเลือกของเล่นต้องควรเลือกดังนี้
1.ควรเลือกประดิษฐ์ของเล่นให้มีความหลากหลาย และน่าสนใจ
2.ของเล่นสามารถยืดหยุ่นหรือเล่นได้หลายรูปแบบ และมีความแตกต่างกัน
3.ของเล่นที่ดีต้องทำให้เด็กได้รู้จักสังเกต
4.สามารถบูรณาการได้หลากหลายสาระวิชาเช่นเดียวกับการบูรณาการกับการศึกษาแบบ STEM โดยมีสาระวิชาดังนี้
ทักษะการคิดที่มีความคิดสร้างสรรค์ 5 ขั้น
ขั้นที่ 1 ความคิดริเริ่ม
ขั้นที่ 2 ความคิดคล่องแคล่ว
ขั้นที่ 3 ความคิดยืดหยุ่น
ขั้นที่ 4 ความคิดละเอียดลออ
ขั้นที่ 5 ความคิดสร้างสรรค์

**เด็กจะต้องได้เรียนรู้และได้ลงมือปฏิบัติในกิจกรรมที่มีความรู้สอดแทรกที่หลากหลายวิชาเด็กจะได้เกิดทักษะ ทั้ง 5 ขั้น **
กรอบมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย 8 สาระ ดังนี้
สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต
สาระที่ 2 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
สาระที่ 3 สารและสมบัติของสาร
สาระที่ 4 แรงและการเคลื่อนที่
สาระที่ 5 พลังงาน
สาระที่ 6 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอากาศ
สาระที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  การนำความรู้มาประยุกต์ใช้
       เราสามารถจัดการเรียนรู้ที่ได้หลักการบูรณาการที่เกี่ยวกับSTEM เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ที่หลากหลายและให้เด็กได้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์ต่างๆ
การประเมิน
ประเมินตนเอง   วันนี้มีความตั้งใจในการเรียนในระดับดีเข้าใจในเนื้อหาที่ครูสอนและอธิบายและได้นำสื่อวิทยาศาสตร์ที่อาจารย์มาให้ทดลองเล่น
ประเมินเพื่อน  วันนี้เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียนและช่วยกันตอบคำถามกันเป็นอย่างดี
ประเมินอาจารย์  อาจารย์มีการเตรียมตัวในการสอนมาเป็นอย่างดีและอธิบายถึงหลักวิทยาศาสตร์ได้อย่างเข้าใจ มีอุปกรณ์มาให้ทดลองและน่าสนใจ