บันทึกการเรียนครั้งที่ 7
วันอังคาร ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559
เนื้อหาการเรียนและความรู้ที่ได้รับ
วันนี้อาจารย์ได้มีการให้คัดลายมือเหมือนในทุกๆครั้ง ด้วยตัวหนังสือ
หัวกลมตัวเหลี่ยม
หลังจากที่พวกเราคัดลายมือกันเสร็จอาจารย์ก็ได้เปิดวีดีโอ เรื่อง
ความลับของแสง ให้ได้ดูในวิดโอได้พูดถึงเรื่องแสงว่าแสงมีประโยชน์อย่างไร
ความรู้ที่ได้จากวิดีโอ มีดังนี้
1.แสงจะเป็นคลื่น และมีความสามารถในการเคลื่อนที่เร็ว 300000 กิโลเมตร / ต่อชั่วโมง
2.แสงเดินทางเป็นเส้นตรง
3.เมื่อแสงมากระทบกับวัตถุจึงจะสะท้อนเข้ามาที่ดวงตาของเรา
จะทำให้เราสามารถมองเห็นวัตถุนั้นได้
4.การหักเหของแสง
เกิดจากแสงจะเดินทางผ่านตัวกลางที่แตกต่างกันและเกิดการกกัหเหตามมุมของตัวกลางนั้นๆ
5.การสะท้อนของแสงทำให้เกิดมุมตกกระทบคือมุมที่แสงตกกระทบทำกับเส้นตั้งฉากกับกระจก
และมุมสะท้อนคือมุมที่แสงสะท้อนทำกับเส้นตั้งฉากกับกระจก กฎของการสะท้อนกล่าวว่า “เมื่อเกิดการสะท้อนแสงทุกครั้งมุมตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อนเสมอ”
คุณสมบัติของของวัตถุมีดังนี้
1.วัตถุโปร่งแสง แสงจะสามารถทะลุผ่านได้บางส่วน
สามารถมองเห็นได้แต่จะไม่ชัด
2.วัตถุโปร่งใส แสงสามรถทะลุผ่านได้ สามารถมองผ่านได้อย่างชัดเจน
3.วัตถุทึบแสง แสงจะไม่สามารถทะลุผ่านได้ จะดูดกลืนแสง
เช่น หิน เหล็ก เป็นต้น
พอเราได้ดูวีดีโอเสร็จอาจารย์ก็ได้มีการทดลองให้พวกเราได้ลองทดลองดูโดยมีอุปกรณ์ที่เป็นสื่อที่เกี่ยวกับแสงและการมองเห็นมาให้ทดลอง
มีดังนี้
กล้องเพอริสโคป
กล้องเพอริสโคปใช้หลักการสะท้อนของแสงผ่านกระจก 2 ชิ้น ที่เอียงทำมุม
45 องศา มาใช้ แสงที่ส่องผ่านเข้ามาตกกระทบกับกระจกจะสะท้อนทำมุม 90
องศาทำให้เราสามารถมองเห็นภาพวัตถุที่อยู่สูงเหนือระดับสายตาได้ ซึ่งภาพที่เห็นก็จะอยู่ในทิศทางเดียวกับของจริง
กระจกพิศวง
ภาพติดตา
ธรรมชาติของสายตามนุษย์ในการมองเห็นภาพใดภาพหนึ่งแล้ว หากภาพนั้นหายไป
สายตามนุษย์จะยังคงรักษาภาพไว้ที่เรติน่าเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 1/15 วินาที
(ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงนี้) ถ้าหากภายในระยะเวลาดังกล่าวมีอีกภาพแทรกเข้ามาแทนที่
สมองของมนุษย์จะทำการเชื่อมโยงสองภาพเข้าด้วยกัน
และจะทำหน้าที่ดังกล่าวต่อไปเรื่อยๆ หากมีภาพต่อไปปรากฎในเวลาใกล้เคียงกัน
หลังจากที่เราลองเล่นและทดลองกัน อาจารย์ก็ได้มอบหมายงานให้เรา 2 ชิ้น คือให้ไปทำภาพติดตาแลภาพเคลื่อนไหว
การบ้าน 2 ชิ้น
ภาพติดตา
ภาพเคลื่อนไหว
คลิปวีดีโอ
อาจารย์ได้พูดถึงการเลือกของเล่นต้องควรเลือกดังนี้
1.ควรเลือกประดิษฐ์ของเล่นให้มีความหลากหลาย และน่าสนใจ
2.ของเล่นสามารถยืดหยุ่นหรือเล่นได้หลายรูปแบบ
และมีความแตกต่างกัน
3.ของเล่นที่ดีต้องทำให้เด็กได้รู้จักสังเกต
4.สามารถบูรณาการได้หลากหลายสาระวิชาเช่นเดียวกับการบูรณาการกับการศึกษาแบบ
STEM โดยมีสาระวิชาดังนี้
ทักษะการคิดที่มีความคิดสร้างสรรค์ 5 ขั้น
ขั้นที่ 1 ความคิดริเริ่ม
ขั้นที่ 2 ความคิดคล่องแคล่ว
ขั้นที่ 3 ความคิดยืดหยุ่น
ขั้นที่ 4 ความคิดละเอียดลออ
ขั้นที่ 5 ความคิดสร้างสรรค์
**เด็กจะต้องได้เรียนรู้และได้ลงมือปฏิบัติในกิจกรรมที่มีความรู้สอดแทรกที่หลากหลายวิชาเด็กจะได้เกิดทักษะ
ทั้ง 5 ขั้น **
กรอบมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย 8 สาระ ดังนี้
สาระที่ 1 สิ่งมีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต
สาระที่ 2 ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
สาระที่ 3 สารและสมบัติของสาร
สาระที่ 4 แรงและการเคลื่อนที่
สาระที่ 5 พลังงาน
สาระที่ 6 กระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก
สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอากาศ
สาระที่ 8 ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การนำความรู้มาประยุกต์ใช้
เราสามารถจัดการเรียนรู้ที่ได้หลักการบูรณาการที่เกี่ยวกับSTEM เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ที่หลากหลายและให้เด็กได้เกิดความคิดสร้างสรรค์
และให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องวิทยาศาสตร์ต่างๆ
การประเมิน
ประเมินตนเอง วันนี้มีความตั้งใจในการเรียนในระดับดีเข้าใจในเนื้อหาที่ครูสอนและอธิบายและได้นำสื่อวิทยาศาสตร์ที่อาจารย์มาให้ทดลองเล่น
ประเมินเพื่อน
วันนี้เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียนและช่วยกันตอบคำถามกันเป็นอย่างดี
ประเมินอาจารย์
อาจารย์มีการเตรียมตัวในการสอนมาเป็นอย่างดีและอธิบายถึงหลักวิทยาศาสตร์ได้อย่างเข้าใจ
มีอุปกรณ์มาให้ทดลองและน่าสนใจ