วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่ 6
วันอังคาร  ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559


เนื้อหาการเรียนและความรู้ที่ได้รับ
       วันนี้อาจารย์ได้มีวิดีโอให้พวกเราได้ดูโดย นัดให้ไปพบกันที่  สํานักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม (ชั้น 8) ได้ดูวิดีโอเรื่อง อากาศมหัศจรรย์
ความรู้ที่ได้จากการดูวิดีโอ
  • อากาศมีตัวตนสัมผัสได้ มีน้ำหนักและต้องการที่อยู่ อากาศมีอยู่รอบ ๆ ตัวเราทุกหนทุกแห่ง มีทั้งอากาศเย็นและอากาศร้อน
  • อากาศเคลื่อนที่ได้ และ เมื่ออากาศได้รับความร้อนจะขยายตัว ลอยตัวสูงขึ้น ทำให้ความหนาแน่นของอากาศบริเวณนี้ลดลง อากาศบริเวณใกล้เคียงที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าความหนาแน่น มากกว่าจะเข้ามาแทนที่ ซึ่งเรียกว่า การเคลื่อนที่ของอากาศหรือลม
  •       อากาศ จะเกิดการเคลื่อนที่อยู่เสมอ บางเวลาเคลื่อนที่น้อย แต่บางเวลาเคลื่อนที่มาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอากาศขึ้น ซึ่งเราสามารถสังเกตได้ง่ายๆ เช่น มีลมพัด มีเมฆ มีฝนตก
  •    อากาศที่ร้อนนั้นจะมีความดันที่ต่ำกว่าอากาศเย็น

ตัวอย่างการทดลอง  เป่าฟองสบู่  เป็นการทดลองโดยเป่าน้ำสบู่แล้วเจอฟองลอยไปสู่อากาศแล้วค่อยตกลงที่ฟองสบู่ลอยขึ้นได้เพราะลมที่เราเป่าออกไปจากตัวเรามีความร้อนเลยทำให้ฟองสบู่ลอยขึ้นข้างบนแล้วค่อยๆตกลงสู่พื้นเมื่อเวลาเย็นลง



จับไข่ลงขวด  เหตุใดไข่ที่มีขนาดใหญ่กว่าปากขวด สามารถเข้าไปในขวดได้  นั่นก็เป็นเพราะว่า เมื่อเราจุดไฟที่เทียน แล้วนำขวดปากแคบมาครอบเอาไว้  ขวดจะเกิดความร้อน อากาศในขวดจึงขยายตัวและลอยออกจากขวด ทำให้ความดันอากาศที่อยู่ในขวดลดน้อยลงกว่าความดันอากาศภายนอก ความดันอากาศที่มีมากกว่า จึงดันให้ ไข่ต้มเข้าไปในขวดปากแคบ ได้อย่างง่ายดาย  เป็นต้น



หลังจากดูวิดีโอเสร็จก็มีการนำเสนอ ของเล่นที่เราประดิษฐ์มานำเสนอหน้าชั้น




ชื่อของเล่น หลอดเลี้ยงลูกบอล
วิธีการเล่น
       นำลูกบอลฟอยด์มาวางไว้ที่ปลายหลอด จากนั้นก็เป่าลมจากปากเพื่อเลี้ยงลูกบอลในอากาศ และไม่ให้มันหล่นลงพื้น
หลักการทางวิทยาศาสตร์
       หลักการการทำงานของของเล่น คือความสัมพันธ์ระหว่างความดันและความเร็วของอากาศ ธรรมชาติของอากาศ (และของไหลได้เช่นน้ำ) ก็คือที่ใดที่อากาศไหลเร็ว ความดันอากาศแถวนั้นจะน้อย ดังนั้นถ้าบริเวณอื่นที่อยู่รอบๆมีความดันอากาศมากกว่า ก็จะมีลมวิ่งจากที่ความดันมากเข้าหาที่ความดันน้อยกว่า (หลักการนี้เรียกว่าหลักการของเบอร์นูลลี)
การบูรณ์การ
       นอกจากเราจะสอนให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องของแรงดันอากาศแล้วเรายังสามารถนำมาประยุกต์ใช้โดยสอนในเรื่องของสัตว์โดยนำรูปสัตว์ที่สามารถพ่นน้ำได้มาติดที่หลอด
การนำความรู้มาประยุกต์ใช้
วันนี้เราได้เห็นของเล่นที่หลากหลาย พอที่จะสามารถนำมาเป็นแนวทางในการทำของเล่นวิทยาศาสตร์ได้เองและสามารถนำมาสอนเด็กๆได้อีก
การประเมิน
ประเมินตนเอง
       วันนี้ตั้งใจดูวิดีโอเป็นอย่างมาก เพราะมีการทดลองที่น่าสนใจมากมาย ทำให้เกิดความรู้ใหม่ๆและเป็นการเพิ่มเติมความรู้ใหม่อีกด้วย
ประเมินเพื่อน
       เพื่อนๆทุกคนตั้งใจดูวิดีโอกันทุกคน และนำเสนอของเล่นได้อย่างน่าสนใจมากค่ะ
ประเมินอาจารย์

       อาจารย์มักมีวิธีการใหม่ๆมาสอนกับนักศึกษาอยู่เสมอ และมีการให้คำแนะนำที่ดีเพื่อให้นักศึกษานำความแนะนำเหล่านั้นมาปรับให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง



บันทึกการเรียนครั้งที่ 5
วันอังคาร ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เส้นคัน


    เนื้อหาการเรียนและความรู้ที่ได้รับ
       วันนี้อาจารย์ได้ให้ฝึกคัดลายมือแบบหัวกลมตัวเหลี่ยม ซึ่งเป็นการฝึกลายมือสำหรับคุณครูปฐมวัยเพราะลายมือสำคัญสำหรับครูปฐมวัย เพราะเราจะต้องเขียนตัวหนังสือให้เด็กได้ดู จำเป็นจะต้องเขียนให้ถูกและสวย เพราะเด็กจะได้เรียนรู้ผ่านสิ่งที่เขาเห็นแล้วจะได้ทำตาม





ต่อมาอาจารย์ได้มีกิจกรรมให้เราได้ทำคือ ทำสื่อวิทยาศาสตร์ โดยมีแค่อุปกรณ์ให้เพียง 2 ชิ้นได้แก่
คลิปหนีกระดาษ 1 ตัว
กระดาษ 1 แผ่น
โดยแบ่งเป็นกลุ่มทั้งหมด 6 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มนำเสนอสื่อเพื่อใช้สอนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ดังนี่
  • กลุ่ม 1 การเกิดฝน


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การเกิดฝน

  • กลุ่ม 2 ลม


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พัดพับ




  • กลุ่ม 3 พลังงานลม






กลุ่ม 4 แรงต้านอากาศ



  • กลุ่ม 5 แรงดันอากาศ




  • กลุ่มที่ 6 ฤดูกาล เป็นกลุ่มของตัวเอง โดยกลุ่มเราช่วยกันเสนอความคิดแล้วมาสรุแผลด้วยกันโดยทำเป็นสื่อการสอนเกี่ยวกับฤดูกาลโดย นำกระดาษที่อาจารย์แจกมาตัดเป็นวงกลม แล้วนำคลิปหนีบกระดาษมาทำเป็นเข็มนาฬิกา ไว้ให้หมุนเปลี่ยนไปตามฤดู  ตามภาพ ค่ะ


       เป็นสื่อที่ให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับฤดูกาลต่างๆและสามารถเรียนรู้ในเรื่องของอุณหภูมิของแต่ฤดูกาลได้อีก



                                                             ของเล่นวิทยาศาสตร์จากวัสดุเหลือใช้




ชื่อของเล่น หลอดเลี้ยงลูกบอล
อุปกรณ์
  1. หลอดดูดน้ำแบบหักได้
  2. ฟอยด์
  3. กรรไกร

ขั้นตอนการทำ 
       นำกรรไกรมาตัดที่ปลายหลอดตรงที่เราดูดน้ำตัดเป็นแฉกๆจากนั้นก็ใช้มือทำให้ตรงที่เราตัดนั้นบ่นออกเพื่อที่จะสามารถใส่ลูกบอลได้ จากนั้น ก็ปั้นฟอยด์ที่เราเตรียมไว้มาปั้นเป็นกลมๆใช้เป็นลูกบอล        ตามคลิป

วิธีการเล่น
       นำลูกบอลฟอยด์มาวางไว้ที่ปลายหลอด จากนั้นก็เป่าลมจากปากเพื่อเลี้ยงลูกบอลในอากาศ และไม่ให้มันหล่นลงพื้น
หลักการทางวิทยาศาสตร์
หลักการการทำงานของของเล่น คือความสัมพันธ์ระหว่างความดันและความเร็วของอากาศ ธรรมชาติของอากาศ (และของไหลได้เช่นน้ำ) ก็คือที่ใดที่อากาศไหลเร็ว ความดันอากาศแถวนั้นจะน้อย ดังนั้นถ้าบริเวณอื่นที่อยู่รอบๆมีความดันอากาศมากกว่า ก็จะมีลมวิ่งจากที่ความดันมากเข้าหาที่ความดันน้อยกว่า (หลักการนี้เรียกว่าหลักการของเบอร์นูลลี)

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
       เราสามารถนำกิจกรรมที่ได้เรียนรู้ในวันนี้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่เราจะสอนหรือนำไปทำกิจกรรมร่วมกับเด็กและในการทำกิจกรรมนั้นจำเป็นต้องจัดกิจกรรมที่สอดคล้งกับการเรียนรู้ของเด็กอีกด้วย
การประเมิน
ประเมินตนเอง  
วันนี้ช่วยเพื่อนๆในกลุ่มทำสื่อสอนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เป็นอย่างดีและตั้งใจฟังและดูผลงานของเพื่อนๆกลุ่มอื่นๆเป็นอย่างดี
ประเมินเพื่อน
วันนี้เพื่อนๆทุกคนตั้งใจเรียน แต่ละกลุ่มตั้งใจนำเสนอผลงานของตัวเองเป็นอย่างดีและอธิบายให้เข้าใจเกี่ยวกับผลงานอย่างเข้าใจ
ประเมินอาจารย์
อาจารย์ตรงต่อเวลา และอธิบายและมีการยกตัวอย่างให้นักศึกษาเกิดความเข้าใจมากขึ้นและมีข้อแนะนำดีๆให้นักศึกษานำกลับไปใช้อีกอีกด้วย






บันทึกครั้งที่ 4


วัน เสาร์ ที่ 27 สิงหาคม พ..2559 เวลา 12 : 00 .


งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2559 



       วันนี้ได้ไปดูงานที่  อิมแพค เมืองทองธานี ฮอลล์ 2 – 8 งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2559 (national science and technology fair)  ภายในงานมีบูธต่างๆมากมายที่ให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างเช่น บูธ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ( อพวช.) เป็นบูธที่ให้เราลองส่องหาดวงดาวต่างๆโดยมีอุปกรณ์แจกให้คือแผนที่ดาว โดยมีวิธีใช้ดังนี้
  1. หมุนแผนที่ดาว โดยให้วันที่ตรงกับเวลาที่สังเกตท้องฟ้า
  2. มองไปทางทิศเหนือ จุดหมุนตรงกลางคือดาวเหนือ
  3. ยกแผนที่ดาวขึ้นเทียบกับท้องฟ้าจริง

ภาพแผนที่ดาว

       นอกจากนี้ยังมี บูธอีกมากมายที่ให้เราได้ลงมือทดลองเช่น  การทดลองมองแสงอินฟราเรด  ทำยังไงที่จะสามารถทำให้เราได้มองเห็นแสงอินฟราเรดจาก รีโมททีวี มีวิธีง่ายๆคือ เราหยิบมือถือของเรามา แล้วกดไปที่ปุ่มไหนก็ได้ของรีโมทแล้วนำมือถือมาเข้าไปที่กล้องถ่ายรูปแล้วส่องก็จะเห็นดังคลิปค่ะ








มาชมภาพต่างๆกันค่ะ


























บันทึกการเรียนครั้งที่ 3
วันอังคาร ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2559 




เนื้อหาในการเรียนและความรู้ที่ได้รับ
วันนี้อาจารย์ได้มอบหมายงานให้นั่งทำภายในห้องเรียน คือสรุป เรื่องรูปแบบการเรียนรู้เด็กปฐมวัย

คุณลักษณะตามวัยของเด็กอายุ 3 – 5 ปี  ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.. 2546  มีดังนี้
เด็กอายุ  ปี
เด็กอายุ  ปี
เด็กอายุ  ปี
พัฒนาการด้านร่างกาย
·       วิ่งและหยุดโดยไม่ล้ม
·       รับลูกบอลด้วยมือและลำตัว
·       เดินขึ้นบันไดสลับเท้าได้
·       เขียนรูปวงกลมตามแบบได้
·       ใช้กรรไกรมือเดียวได้
·       วาดและระบายสีอิสระได้







พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
·       แสดงอารมณ์ตามความรู้สึก
·       ชอบที่จะทำให้ผู้ใหญ่พอใจและได้คำชม
·       กลัวการพลัดจากผู้เลี้ยงดูใกล้ชิดน้อยลง


พัฒนาการด้านสังคม
·       รับประทานอาหารได้ด้วยตนเอง
·       ชอบเล่นแบบคู่ขนาน (เล่นของเล่นชนิดเดียวกันแต่ต่างคนต่างเล่น)
·       เล่นสมมติได้
·       รู้จักรอคอย
พัฒนาการด้านร่างกาย
·       กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้
·       รับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสอง
·       เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้
·       เขียนรูปสีเหลี่ยมตามแบบได้
·       ตัดกระดาษเป็นเส้นตรงได้
·       กระฉับการเฉยไม่ชอบอยู่เฉย







พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
·       แสดงออกทางอารมณ์ได้เหมาะสมกับบางสถานการณ์
·       เริ่มรู้จักชื่นชมความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น
·       ชอบท้าทายผู้ใหญ่
·       ต้องการให้มีคนฟังคนสนใจ

พัฒนาการด้านสังคม
·       แต่งตัวได้ด้วยตนเอง ไปห้องส้วมได้เอง
·       เล่นร่วมกับผู้อื่นได้ รอคอยตามลำดับก่อน หลัง
·       แบ่งของให้คนอื่น
·       เก็บขอบเล่นเข้าที่ได้
พัฒนาการด้านร่างกาย
·       กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องได้
·       รับลูกบอลที่กระดอนขึ้นจากพื้นได้ด้วยมือทั้งสอง
·       เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว
·       เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
·       ตัดกระกาษตามแนวเส้นโค้งที่กำหนด
·       ใช้กล้ามเนื้อเล็กได้ดี เช่น ติดกระดุม  ผูกเชือกรองเท้า ฯลฯ
·       ยืดตัว  คล่องแคล่ว

พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
·       แสดงอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม
·       ชื่นชมความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น
·       ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางน้องลง


พัฒนาการด้านสังคม
·       ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
·       เล่นหรือทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายร่วมกับผู้อื่นได้
·       พบผู้ใหญ่  รู้จักไหว้  ทำความเคารพ
·       รู้จักขอบคุณ  เมื่อรับของจากผู้ใหญ่
·       รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
เด็กอายุ  ปี
เด็กอายุ  ปี
เด็กอายุ  ปี
พัฒนาการด้านสติปัญญา
·       สำรวจสิ่งต่าง ๆ ที่เหมือนกันและต่างกันได้
·       บอกชื่อของตนเองได้
·       ขอความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหา
·       สนทนาโต้ตอบ / เล่าเรื่องด้วยประโยคสั้น ๆ ได้
·       สนใจนิทานและเรื่องราวต่าง ๆ
·       ร้องเพลง ท่องคำกลอน  คำคล้องจองง่าย ๆ และแสดงท่าทางเลียนแบบได้
·       รู้จักใช้คำถาม อะไร
·       สร้างผลงานตามความคิดของตนเองอย่างง่าย ๆ
·       อยากรู้อยากเห็นทุกอย่างรอบตัว
พัฒนาการด้านสติปัญญา
·       จำแนกสิ่งต่าง ๆ ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าได้
·       บอกชื่อและนามสกุลของตนเองได้
·       พยายามแก้ปัญหาด้วยตนเองหลังจากได้รับคำชี้แนะ
·       สนทนาโต้ตอบ / เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่างต่อเนื่อง
·       สร้างผลงานตามความคิดของตนเองโดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น
·       รู้จักใช้คำถาม ทำไม
พัฒนาการด้านสติปัญญา
·       บอกความแตกต่างของกลิ่น สี เสียง รส รูปร่าง  จำแนกและจัดหมวดหมู่สิ่งของได้
·       บอกชื่อ  นามสกุล  และอายุของตนเองได้
·       พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง
·       สนทนาโต้ตอบ / เล่าเป็นเรื่องราวได้
·       สร้างผลงานตามความคิดของตนเองโดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นและแปลกใหม่
·       รู้จักใช้คำถาม ทำไม”      “อย่างไร
·       เริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรม
·       นับสิ่งต่าง ๆ จำนวนมากกว่า  10  ได้


ธรรมชาติของเด็กอายุ 3 – 5 ปี
3 ปี
เป็นวัยที่เด็กจะช่างสงสัย ช่างถาม ช่างเลียนแบบ และเป็นวัยช่างสำรวจโลกใบน้อยของเขา จะสนใจเกี่ยวกับการฝึกทักษะต่าง ๆ อย่างมาก เช่น เล่นไม้ลื่นหรือขี่จักรยานสามล้อ
4 ปี
เด็กวัยนี้ส่วนใหญ่จะใช้พลังไปกับการเล่น มีความเชื่อมั่นในตัวเองมากและอยากลองของใหม่ อยากรู้
อยากเห็น ชอบกระโดด โลดเต้น ชอบตะโกน หัวเราะไม่ค่อยมีความอดทน มีจินตนาการสูงจนบางครั้ง
ทำให้พูดจาโอ้อวดเกินจริง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กวัยนี้
5 ปี
วัยนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสุดท้ายของการเป็นเด็กวัยต้นที่ย่างเข้าสู่วัยเจริญเติบโตขั้นต่อไป บางคนเข้า
อนุบาลแล้ว เด็กจะร่าเริง แจ่มใส ใช้พลังหมดไปกับการเล่น

ทฤษฎีการเรียนรู้
  • การวางเงื่อนไขกลับ (การทดลองของเมรีโจน)
  • ทฤษฎีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของธอร์นไดค์
  • การเรียนรู้ตามทฤษฎีของบรูเนอร์
  • การเรียนรู้ตามทฤษฎีของไทเลอร์


ภาพงานสรุป



การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
       วันนี้ที่เราได้นั่งสรุปเราได้เข้าใจกับพัฒนาการของเด็กปฐมวัยแต่ละช่วงวัยเป็นอย่างมากเราสามารถนำความรู้ที่ได้จากการสรุปนำมาจัดกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัยให้กับเด็กและนำความรู้ตรงนี้นำมาบูรณาการให้สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์
การประเมิน
ประเมินตนเอง
       วันนี้ตั้งใจสรุปและทำงานส่งทำที่อาจารย์มอบหมายฝห้
ประเมินเพื่อน
       วันนี้เพื่อนๆเข้าเรียนตามเวลาและตั้งใจทำงานที่อาจารย์มอบหมาย